~
~
เก๋งแซงไม่พ้น ชนรถตู้รับส่งนร. 3 คัน ผู้ปกครองเห็นสภาพลูกหลานต่างร้องไห้ มีรายงานอุบัติเหตุสุดสลดเกิดขึ้น เมื่อรถเก๋งพยายามจะแซงรถตู้รับนักเรียน แต่แซงไม่พ้น ทำให้เกิดการชนกันถึง 3 คัน นักเรียนและคนขับเจ็บ 19 ราย สาหัส 4 ราย ซึ่งเหตุเกิดขึ้นที่ บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 115 พิจิตร-สากเหล็ก บริเวณกิโลเมตรที่ 98+300 ตำบลป่ามะคาบ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร
~
~
โดยเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานต้องใช้เครื่องดับเพลิงฉีดพ่นดับไฟ โดยเฉพาะพยายามใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อช่วยชีวิตหนูน้อย วัย 8 ขวบ ที่ติดอยู่ในรถตู้รับส่งนักเรียน และเกิดประกายไฟจากแบตเตอรี่ เกรงว่าจะเกิดไฟไหม้รถตู้ รับส่งนักเรียน พร้อมทั้งนำรถดับเพลิงมาแสตนบาย พร้อมทั้งเร่งมือในการช่วยเหลือ จนสามารถช่วยชีวิตเด็กชาย 8 ขวบออกมาได้
ด้าน นางเกสร อายุ 44 ปี ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีดำ พยามจะแซงรถตู้รับส่งนักเรียน ยี่ห้อนิสสัน สีบอร์น ที่รับนักเรียนจากหลายโรงเรียนในตัวจังหวัดเพื่อไปส่งที่อำเภอสากเหล็ก แต่แซงไม่พ้น ทำให้รถตู้รับส่งนักเรียนที่ขับโดย นายทักเทพ พยายามหักหลบ จังหวะนั้้นมีรถตู้ส่วนบุคคลยี่ห้อฮุนได สีดำ ขับโดย น.ส.สสิมา ขับสวนทางมา ทำให้เกิดการชนประสานงากันทั้ง 3 คัน
~
~
โดยเบื้องต้นหน่วยกู้ภัยได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลพิจิตร โดยมีผู้บาดเจ็บจำนวน 19 ราย เป็นนักเรียน 17 ราย มีอาการสาหัส รหัสสีแดง อายุน้อยกว่า 10 ขวบ 4 ราย ผู้ใหญ่ 2 ราย แพทย์โรงพยาบาลพิจิตรได้เร่งทำการช่วยเหลือ แต่ยังไม่พ้นขีดอันตราย
ทั้งนี้ นางเกสร คนขับรถโตโยต้าที่พยายามแซงรถรับส่งนักเรียนเปิดเผยว่า ตนเองเป็นคนผิด ที่พยายามจะแซงรถนักเรียน แต่แซงไม่พ้น ขอยอมรับผิดชอบทุกอย่าง ระหว่างนั้น นางเกษรก็มีเสียงสั่นเครือ พยายามยกมือไหว้ขอโทษผู้ปกครองที่มาดูเหตุการณ์ และพยายามร้องบอกให้เด็กนักเรียนที่เพิ่งถูกงัดออกจากรถตู้ปลอดภัย
~
~
ท่ามกลางผู้ปกหลายคน ที่มาเห็นสภาพลูกหลานก็พากันร้องไห้ หลายคนที่ทราบข่าวก็พากันมาตามหาลูกหลานอย่างอลเวง ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ เป็นเส้นทางที่กำลังมีการก่อสร้างการจราจร 4 เลน แต่ในขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้รถวิ่งสวนทางกันได้เพียง 2 ช่องทางเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น. ของวันเดียวกัน โรงพยาบาลพิจิตร แจ้งมีเด็กเสียชีวิต 2 ราย คือ เด็กชายธีรพัฒน์ เพกา อายุ 10 ขวบ , เด็กชายณัฏกร เนตรยิ้ม อายุ 10 ขวบ
~
~
ภาพจาก สมาคมกู้ภัยสากเหล็กการกุศลสงเคราะห์
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline
~
~